How Social Media Effects Teenagers’ Mental Health - ผลกระทบของโซเชียลมีเดียต่อสุขภาพจิตของวัยรุ่น
- You-Dee Organization
- 14 ธ.ค. 2564
- ยาว 1 นาที
อัปเดตเมื่อ 7 ก.พ. 2565

คงจะปฏิเสธไม่ได้ว่าในปัจจุบันสื่อโซเชียลมีเดียได้กลายเป็นส่วนสำคัญในชีวิตประจำวันของเราทุกคนไปแล้ว ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Instagram, Twitter, YouTube ฯลฯ หากจะกล่าวว่าทั้งหมดนี้ได้กลายมาเป็น “ปัจจัยที่ 5” ของชีวิตเราก็คงไม่ผิดนัก แทบจะกลายเป็นเรื่องปกติไปแล้วที่เรามักจะใช้เวลาว่างไปกับการนั่งเลื่อนฟีด แน่นอนว่าโซเชียลมีเดียมีประโยชน์มากมาย ทั้งเป็นแหล่งความบันเทิงที่ดีและสื่อความรู้ที่ยอดเยี่ยม แต่การใช้งานที่มากเกินไปก็ส่งผลกระทบต่อสุขภาพจิตเช่นกัน โดยเฉพาะในหมู่วัยรุ่นที่มีสถิติการใช้งานแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดียมากกว่าวัยอื่น ๆ แต่ทั้งในเด็ก ผู้ใหญ่ ไปจนถึงผู้สูงอายุต่างก็ได้รับผลกระทบอย่างมากเช่นเดียวกัน
งานวิจัยหลายชิ้นได้พิสูจน์แล้วว่าการใช้สื่อโซเชียลมีเดียมีผลกระทบอย่างมากต่อสุขภาพจิตของผู้ใช้งาน ทั้งทำให้เกิดความเครียด ความวิตกกังวล ความเหงา ภาวะซึมเศร้า หรือแม้กระทั่งคิดทำร้ายตัวเองหรือฆ่าตัวตาย
ผลกระทบของโซเชียลมีเดียต่อสุขภาพจิตมีดังนี้
Cyberbullying แพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย โดยเฉพาะแพลตฟอร์มแบบนิรนาม (Anonymous) กลายเป็นแหล่งกระจายข่าวลือหรือเรื่องที่ทำให้ผู้อื่นเสียหาย ซึ่งทำให้ผู้เสียหายเกิดแผลใจ
ทำให้รู้สึกไม่มั่นใจในตัวเอง ถึงแม้เราจะรู้ว่ารูปภาพต่าง ๆ ที่ถูกโพสต์นั้นถูกปรับแต่งมาแล้ว แต่ก็ยังสามารถทำให้เรารู้สึกไม่พอใจกับชีวิตตัวเองที่เป็นอยู่ หรือไม่พอใจกับรูปลักษณ์ของตัวเองได้ เนื่องจากเราเอาตัวเองไปเปรียบเทียบกับผู้อื่นอยู่ตลอด และยังนำไปสู่ภาวะซึมเศร้าและความวิตกกังวลอีกด้วย
นำไปสู่ความรู้สึกอิจฉาคนอื่น เมื่อเราเปรียบเทียบตัวเองกับคนในโลกโซเชียลฯ อยู่ตลอดเวลา ความรู้สึกว่าตัวเองไม่ดีพออาจทำให้เราเกิดความอิจฉาและคอยจ้องจับผิดหรือ Cyberbully ผู้อื่นได้
เสียเวลาชีวิต เมื่อเอาแต่กังวลว่าจะพลาดเรื่องสำคัญ จนต้องคอยเช็คหน้าจอมือถืออยู่ตลอดเวลา อย่างที่หลายคนอาจเคยได้ยินประโยคเปรียบเปรยที่ว่า “โซเชียลฯ ดูดวิญญาณ” ซึ่งทำให้เราเสียเวลามหาศาลไปกับการนั่งเลื่อนฟีด และอาจทำให้ไม่มีสมาธิกับงาน นอนดึก หรือเสียโอกาสทำกิจกรรมอื่น ๆ ที่ดีต่อสุขภาพและหน้าที่การงานมากกว่า
ทำให้รู้สึกเหงามากกว่าเดิม หลายคนคิดว่าการใช้โซเชียลฯ นั้นช่วยบรรเทาความเหงา แต่ความจริงแล้วกลับตรงข้าม ซึ่งในปัจจุบันได้รับการพิสูจน์แล้วว่าการใช้งานโซเชียลฯ มีแต่จะทำให้ความรู้สึกเหงาและโดดเดี่ยวเพิ่มขึ้น
ทำให้เราละเลยปัญหาที่แท้จริง หลายคนใช้โซเชียลฯ เป็นหลุมหลบภัย เมื่ออยู่ในสถานการณ์ที่ตึงเครียด เบื่อหน่าย วิตกกังวล รู้สึกเหงา หรือประสบปัญหาในชีวิต คนส่วนใหญ่ก็มักจะหาทางออกโดยการหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาและเปิดสื่อโซเชียลฯ ซึ่งอาจทำให้รู้สึกดีขึ้นชั่วขณะ แต่ความจริงแล้วกลับเป็นการเบี่ยงเบนความสนใจของเราจากจากปัญหาที่แท้จริง ทำให้ไม่ได้แก้ปัญหาที่ต้นเหตุ และปล่อยให้มันสะสมเพิ่มพูนขึ้นเรื่อย ๆ
แล้วจะรู้ได้อย่างไรว่าเรากำลังใช้โซเชียลฯ ในวิธีที่ส่งผลเสียต่อสุขภาพอยู่หรือเปล่า ?
สัญญาณที่บ่งบอกว่าเราอาจ “เสพติดโซเชียลฯ (Social media addiction)” เข้าแล้ว
ใช้เวลากับสื่อโซเชียลฯ มากกว่ากับเพื่อนจริง ๆ
ต้องคอยอัปเดตตัวเองในโซเชียลฯ อยู่ตลอดเวลา
มักเปรียบเทียบตัวเองกับคนบนโลกโซเชียลฯ
กังวลว่าคนอื่นโพสต์ในเชิงลบเกี่ยวกับเรา
เสียสมาธิระหว่างเรียนหรือทำงาน
ไม่มีเวลาย้อนมองดูตัวเอง ว่าเราเป็นใคร คิดยังไง อยากทำอะไร
มีปัญหาการนอนหลับ นอนหลับยาก นอนดึกตื่นสาย เข้านอนไม่เป็นเวลา
รู้สึกวิตกกังวล ซึมเศร้า หรือโดดเดี่ยวเมื่อไม่ได้เปิดโซเชียลมีเดีย
ถ้าคุณใช้เวลากับสื่อโซเชียลฯ เป็นระยะเวลานานและเริ่มมีอาการดังที่กล่าวมานี้ บางทีอาจถึงเวลาที่คุณต้องพิจารณาพฤติกรรมการใช้สื่อโซเชียลฯ ของคุณดูใหม่ และปรับสมดุลเพื่อสุขภาพที่ดีขึ้น
วิธีจัดการกับภาวะติดโซเชียลฯ และวิธีใช้งานสื่อโซเชียลฯ เพื่อสุขภาพจิตที่ดี
เลือกติดตามคนที่มีทัศนคติเชิงบวกและสร้างแรงบันดาลใจให้กับเรา
เลิกติดตามคนที่ Toxic
ปิดเสียงแจ้งเตือน
ยอมรับความหลากหลายและความแตกต่าง
ทำ Digital Detox กำหนดเวลาใช้งานโซเชียลมีเดียในแต่ละวัน
ไม่นำโทรศัพท์มือถือหรือแท็ปเล็ตเข้าห้องนอน
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้ว่าโซเชียลมีเดียจะส่งผลเสียต่อสุขภาพในหลายแง่มุม แต่โซเชียลมีเดียก็มีข้อดีมากมาย แม้จะไม่สามารถทดแทนปฏิสัมพันธ์ในชีวิตจริงได้ แต่ก็ทำให้เราสามารถติดต่อกับใคร ที่ไหน เมื่อไรก็ได้ และทำให้เราสามารถหาเพื่อนใหม่ที่มีความสนใจเหมือนกันได้ นอกจากนี้ยังเป็นพื้นที่ให้ได้ปลดปล่อยความเป็นตัวเอง และเป็นแหล่งหาข้อมูลความรู้ที่ยอดเยี่ยม
ดังนั้นคุณไม่จำเป็นที่จะต้องตัดโซเชียลมีเดียออกไปจากชีวิต ทุกคนอยู่กับมันได้ เพียงแต่จำกัดเวลาและใช้งานในปริมาณที่เหมาะสม รวมถึงคัดเลือกสื่อดี ๆ ที่ทำให้เรามีความสุขจะดีที่สุด
เขียนโดย ธนนันท์ ศรีบุญเรือง
ออกแบบโดย เกวลิน ศรีสุนนท์
แหล่งอ้างอิง:
Walton, A. G. (2017, October 3). 6 ways social media affects our mental health. Forbes. Retrieved November 19, 2021, from https://www.forbes.com/sites/alicegwalton/2017/06/30/a-run-down-of-social-medias-effects-on-our-mental-health/.
Robinson, L. and Smith, M., M.A. (2021, October). Social Media and Mental Health. Retrieved November 23 , 2021, from
Supamangmee, S. (2021, October 26). Social Media VS. Teen สารพัดข้อถกเถียงเรื่องโซเชียลมีเดียกับสุขภาพจิตวัยรุ่น. Retrieved November 23, 2021, from
to know what was happening there.ecurity guarantees to Europe in place since 1945.e.dded.大撈家
bcr娛樂城
通博娛樂城
隆亨娛樂城
皇家娛樂城
富遊娛樂城
金合發娛樂城
逸遊娛樂城
88win娛樂城
逸遊娛樂城
鉅城娛樂城
多博娛樂城
3a娛樂城
武財神娛樂城
隆亨娛樂城
發樂娛樂城
金鈦城娛樂城
發樂娛樂城
KG娛樂城
panaloko
superace88
phswerte
otsobet
gold99
money88
luck9
Nesabamedia merupakan platform informasi teknologi yang menyajikan berita terbaru, tutorial, dan ulasan software. Dengan konten berkualitas, Nesabamedia membantu pengguna memahami perkembangan dunia digital secara mudah dan akurat.
信頼できるウェブサイト
鉅城娛樂城
健康餐
吉卜力風格指令
鉅城娛樂城登入
MBM
娛樂城推薦
娛樂城排行
優良なサイト
鉅城娛樂城
MBM娛樂城
億兆體育
娛樂城
讀點
體育直播
娛樂城推薦
possible to know what was happening there.ecurity guarantees to Europe in place since 1945.e.dded.大撈家
bcr娛樂城
通博娛樂城
隆亨娛樂城
皇家娛樂城
富遊娛樂城
金合發娛樂城
逸遊娛樂城
88win娛樂城
逸遊娛樂城
鉅城娛樂城
多博娛樂城
3a娛樂城
武財神娛樂城
隆亨娛樂城
發樂娛樂城
金鈦城娛樂城
發樂娛樂城
KG娛樂城
panaloko
superace88
phswerte
otsobet
gold99
money88
luck9